Yaya_Young. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS

My self


My name is  Matchanee Hawae.   Nick name  Young

I'm a student in Faculty Of Education Nakhon Si Thammarat Rajabhat University.

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS


Summarize I

(English Teaching Forum)
Ten characteristicts of a good teacher

…BY…
PATRICIA     MILLER
This article was first published in Volume 25, No. 1 (1987)

สามารถแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกันดังนี้
1)            ลักษณะทางด้านอารมณ์ จะประกอบด้วย ความกระตือรือร้น การให้การเสริมแรงทางบวกแก่  นักเรียน/การให้กำลังใจ ความสนใจในด้านการเรียน และสุขภาพจิต
2)            ทางด้านทักษะ จะประกอบด้วย ความคิดสร้างสรรค์ ความท้าทาย
3)            กาบริหารัดการในชั้นเรียน จะประกอบด้วย ความก้าวหน้า ความเป็นธรรม
4)            ความรู้ทางด้านวิชาการ จะประกอบด้วย ความชำนาญในเรื่องของไวยกรณ์
สามารถสรุปได้ดังนี้
                ครูที่มีประสิทธิผลไก้นั้นจะต้องประกอบไปด้วยการสาธิตหรือวิธีการที่ครูใช้ ในบทความนี้กล่าวไว้ว่าประกอบด้วย ลักษณะอารมณ์ สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในตัวของคนเรามาตั้งแต่กำเนิดแล้ว แต่เราก็ต้องทำความเข้าใจกับมันให้มากขึ้น ส่วนใหญ่เราต้องการการเสริมแรงเพื่อให้เกิดการกระตือรือร้น แต่เราก้อต้องไดรับการตักเตือนบ้างในบางครั้งหากเกิดการกระทำผิดขึ้นมา ในส่วนของเทคนิคต่างๆของการจัดการในชั้นเรียนนั้นควรการจัดการการเรียนอย่างเป็นธรรมและเสมอภาคกันอย่างเท่าเทียมมันเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม จึงจะสามารถทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เทคนิคเหล่านี้ไม่ต้องผ่านการอบรมก็ได้ เพียงแค่เรารับรู้เกี่ยวกับทักษะการสอนที่เจาะจงในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์และความท้าทายของแต่ละคน ที่ต้องสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับความยากและความเหมาะสมของพวกเขาและต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมกับประสบการณ์และความคุ้นเคยของหลักสูตรกับสื่อ ในหัวข้อสุดท้ายนี้ครูต้องมีความเชี่ยวชาญและสามารถให้ความน่าเชื่อถือในสายตาของนักเรียน ในการอธิบายวิธีการสอนโดยใช้ความรู้ทางด้านไวยกรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นที่สุดในด้านการเรียนการสอนของทุกๆคน



Summarize II

(English Teaching Forum)
Using Story Jokes for Real Communication

…BY…
 WILLIAM DEFELICE
This article was first published in Volume 34, No. 2 (1996).

การใช้เรื่องราวความตลกในการสื่อสารจริง
สามารถสรุปได้ดังนี้
เรื่องราวความตลกขบขันมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนและสามารถบ่งบอกถึงการตอบสนองที่สามารถสังเกตความจริงใจของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี จากที่เคยฟังมาองค์ประกอบต่างๆเหล่านี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวหรือเข้ามาก้าวก่ายในห้องเรียนภาษาอังกฤษ  ในการเล่าเรื่องความตลกต้องมีความมุ่งมั่นด้วยข้อมูลที่เล่ามาจำเป็นต้องแสดงข้อมูลที่เป็นจริงหรือแม้กระทั่งการยึดมั่นของผู้ชมสามารถเล็งเห็นถึงปัญหา โดยปกติแล้วชนิดของกิจกรรมในห้องเรียนมักจะไปมุ่งมั่นให้มีความชัดเจนเพื่อนำไปสู่ความสนุกสนานของเรื่องที่เล่า การเล่าเรื่องตลกทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบมากขึ้นและจะประสบความสำเร็จในการพูดและการกระทำของตนเอง นั่นคือ การพิสูจน์ในทำนองเดียวกันการตอบสนองต่อเรื่องตลกไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ต่อตัวนักเรียนกับครู แต่พวกเขาต้องเจอสถานการณ์จริงความรู้สึกของอารมณ์ขันที่ไม่มีขอบเขต เพราะมันเป็นอิสระหรืออาจไม่สามารถใช้ร่วมกับเรื่องอื่นๆได้ พวกเขาจะมีพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นอย่างชัดเจน โดยทั่วไปแล้วพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์บางอย่างไม่ควรแสดงให้ผู้ชมเห็น อย่างแรกเลยก็คือจะต้องเจาะจงตัวนักเรียนให้ชัดเจน และก็พวกเขาอาจจะสามารถเดาหรือว่าคาดการณ์ถึงตอนจบของเรื่องได้ แต่ในทางกลับกันมันดูน่าเสียดายยิ่งนักว่าถ้าในชีวิตจริงเด็กเหล่านี้ก็ไม่สามารถเอามาปรับใช้กับชีวิตจริงได้ แต่นักเรียนก็จะสนุกไปกับตัวเอง สักวันหนึ่งในความเป็นจริงมันอาจจะสามารถสร้างความบันเทิงให้คนอื่นฟังได้เกี่ยวกับเรื่องราวความตลกของพวกเขาเองพวกเขาได้เป็นอย่างดีอาจเดาตอนจบของเรื่องอะไรบางอย่างที่ซึ่งน่าเสียดายที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงผลกระทบอื่น ๆ ที่นักเรียนอาจสนุกกับตัวเองและสักวันหนึ่งในการตั้งค่าจริงมากขึ้นจะสามารถสร้างความบันเทิงให้คนอื่นไปด้วยเรื่องราวตลกของพวกเขา



Summarize III

(English Teaching Forum)
Promoting Genre Awarenessin the EFL Classroom

…BY…
DIANE   MILLER
2011 NUMBER 2   ENGLISH   TEACHING   FORUM

ประเภทของการส่งเสริม Awarenessinในห้องเรียน EFL
สามารถสรุปได้ดังนี้สรุป
ที่ผ่านมา 20 ปีทฤษฎีประเภทการเรียนการสอนตามรูปแบบก็ได้ปรับเปลี่ยนวิธี ESP และครูสอนการเขียน EAPการเรียนการสอนที่มีอิทธิพลนี้เริ่มที่EFL ครู แต่อย่างไรก็ตาม EFLครูทำงานที่มีขนาดใหญ่ที่เรียนแตกต่างกัน ต้องเผชิญกับความท้าทายของการเลือกประเภทที่จะสอน ทางเลือกหนึ่ง คือการแนะนำรูปแบบวาทกรรมสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เช่นการเล่าเรื่องคำอธิบายและเล่าขาน เป็นวิธีการประเภทการเรียนการสอน อีกตัวเลือกหนึ่งที่มีความสำคัญ คือ การรวมกิจกรรมการรับรู้ประเภทของการเข้าชั้นเรียน  โดยเฉพาะการสำรวจจะมีความแตกต่างกันออกไป ในแต่ละประเภทจะเกี่ยวข้องกับการใช้บริบทขององค์กรวาทกรรมของพวกเขาและรูปแบบ ไวยากรณ์ที่นักเรียนสามารถส่งเสริมและแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการทำงานภาษาพวกเขาดีขึ้น สามารถสังเกตเห็นและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างประเภทได้ ก็อาจจะมีดีกว่าที่จะเขียนในวงกว้างที่มีความหลากหลายของบริบท ตามบทความที่ได้กล่าวมาได้นำเสนอ สาม ตัวอย่างกิจกรรมการรับรู้ เป็นประเภทที่เน้นเกี่ยวกับกับบริบทวาทกรรมภาษาและ หลายกิจกรรมมากขึ้นที่เป็นไปได้และขอให้ครูที่สนใจในการสำรวจและประเภทห้องเรียนการเรียนรู้ภาษา (Paltridge 2001)เขียนภาษาที่สองและ (ไฮแลนด์ 2003)สำหรับข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ที่คุณก็สามารถเป็นนักวิเคราะห์ประเภทสองขั้นพื้นฐานการตั้งคำถามในตำราจากประเภทนี้โดยเฉพาะที่มีเหมือนกัน? และทำไม? คุณสามารถมี่การพัฒนามากขึ้นและต้องตระหนักถึงวิธีการประเภทของการทำงานและจากนั้นแบ่งปันความรู้นี้ให้แก่กับนักเรียนของคุณได้



Summarize IIII

(English Teaching Forum)
Writing for the Reader:A Problem-Solution Approach

…BY…
TOM MILLER AND DEE PARKER
This article was first published in Volume 35, No. 1 (1997).

การเขียนสำหรับผู้อ่าน: วิธีการแก้ไขปัญหา
สามารถสรุปได้ดังนี้
บทความนี้ได้เน้นความสำคัญของรูปแบบบทความซึ่งมีจุดมุ่งหมายของนักเขียน ที่กำลังตั้งอยู่ที่การปรับตัวของผู้อ่าน ซึ่งรวมถึงบทความป้าย เช่นหัวและทิศทางต้องเริ่มต้นที่ดี ในการแนะนำให้ผู้อ่านจะติดตามต่อไปเขาพยายามที่จะเข้าใจความคิดและการเชื่อมต่อระหว่างส่วนต่างๆของข้อความไปใน ทิศทางที่ดี จะช่วยเปิดโอกาสแก่นักเขียนกับความคิด การควบคุม ในทุกแง่มุมของข้อความ จากประโยคคำสั่งขององค์ประกอบภายในหัวข้อของแต่ละบุคคลประโยคนั้นจะสนองวัตถุประสงค์ของการปรับผู้อ่านไปกับองค์กรทั่วไปของบทความและจะช่วยให้ผู้อ่านบังเกิดความคิดขึ้นมาของผู้ใต้บังคับบัญชา เราได้มุ่งเน้นตัวอย่างแต่เราจะไปเฉพาะเจาะจงที่การกำหนด แต่จะให้ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมเพียงบางส่วนของหลักการเท่านั้นที่นำมาปฏิบัติ เราจะไม่บังคับนักเขียนของเราให้อยู่ในรูปแบบของปัญหา แต่มีเราจะการสำรวจประเภทของข้อความในเชิงลึกเพราะมันเป็นส่วนหลักขององค์กรทั่วไป สำหรับบทความหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งและในบทความวิชาการทั่วไปไม่ว่าจะเป็นบทความใดเกี่ยวกับปัญหาก็ตาม จะต้องมีโครงสร้างไว้ในบทความนี้หรือบางกลยุทธ์อื่น ๆ ตามคำสั่งของข้อมูลในประโยคให้ได้มากที่สุดอาจจะแตกต่างกันไปด้วย ส่วนที่แตกต่างกัน ก็คือการประชุมและการจัดวางรูปแบบของความคิดในข้อความช่วยให้ผู้อ่านระบุสิ่งที่มีความสำคัญและเป็นสิ่งที่ใหม่และช่วยให้ความสัมพันธ์ของข้อความสัมพันธ์กัน องค์กรมาตรฐานจะเป็นช่วยให้สะพานช่องว่างระหว่างผู้อ่านจากภูมิหลังที่แตกต่างกันและให้มีส่วนร่วมกันภายใน ซึ่งความคิดสามารถเผยแพร่อย่างกว้างขวางของ เราหวังว่าการมุ่งเน้นโดยทั่วไปจะเป็นขั้นตอนของบทความ  ไม่เพียง แต่ช่วยผู้ที่มีศักยภาพนำผู้อ่านผ่านทางข้อความ แต่ยังจะช่วยให้เราเป็นผู้อ่านที่ดีขึ้นและมีความสำคัญมากขึ้น

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Applying Innovative Spirit to Multimedia Foreign Language Teaching.

สรุปบทความ

Applying Innovative Spirit to Multimedia Foreign Language Teaching.
การปะยุกต์นวัตกรรมลงในสื่อเพื่อใช้สอนภาษาต่างประเทศ
ในปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ เน้นให้เด็กศึกษาด้วยตนเอง ในขณะที่สถานศึกษาก็ถูกคาดหวังให้ใช้สื่อและเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการการเรียนการสอน แม้แต่การเรียนภาษาต่างประเทศเองก็ตาม แต่สื่อเหล่านี้ช่วยให้กาเรียนการสอนภาษาอังกฤษดีขึ้นหรือไม่
แนวคิดเกี่ยวกับการสอนโดยใช้สื่อและนวัตกรรมทางการศึกษา
การเรียนการสอนภาษาในสมัยก่อนนั้นจะขึ้นอยู่กับครู นักเรียน ชอล์ก กระดานดำ และเทป ในขณะที่การสอนโดยใช้สื่อนั่นครู นักเรียน คอมพิวเตอร์ และบทเรียนนั้นจะไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไร
สรุปได้ว่า..............
การสอนภาษารูปแบบใหม่ ยังต้องรอพิสูจน์ไปอีกสักพัก แต่ทั้งนี้รูปแบบของมันเองก็ปะสบผลสำเร็จไประดับหนึ่ง ทั้งที่ยังต้องขึ้นอยู่กับตัวผู้สอน นักเรียน และสื่อนวัตกรรมนั้นเอง

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Websites related to ELT

http://www.online-english-thai-dictionary.com/

http://www.marujo2524.igetweb.com/index.php?mo=3&art=570356

http://www.bic-englishlearning.com/articleex.html

http://www.kr.ac.th/ebook/jutarat/b5.htm

http://www.studygs.net/tsttak3.htm

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

INNOVATIVE EDUCATIONAL TECHNOLOGY IN THE GLOBAL CLASSROOM

INNOVATIVE EDUCATIONAL TECHNOLOGY
IN THE GLOBAL CLASSROOM

BY Deokson Kim

   ต้องการสิ่งใหม่ๆ มีความคิดสร้างสรรค์ ต้องตามให้ทันนวัตกรรมใหม่ๆที่มันจะเกิด ครูต้องการมีการใช้เทคโนโลยีได้แก่ การอภิปรายแบบออนไลน์ อัพโหลดไฟล์เสียง หรือทำเป็นบล็อกก็ได้ ถ้าครูทำอย่างนี้ก็จะสามารถตามทัน
  ผู้เขียนจะต้องใช้เทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาในการเรียนการสอนอยู่เสมอ ครูก็จะสามารถไปเป็นครูที่ดีและทันต่อเทคโนโลยีในปัจจุบันในอนาคตได้ และในอนาคตก็ยังมีแนวคิดใหม่ๆที่กำลังจะเกิด การวิเคราะห์ ที่จะสามารถทำให้ครูมีรูปแบบการสอนใหม่ๆที่หลากหลาย เราจะต้องมีทางเลือกใหม่ๆเพราะว่าครูจะต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยีทางการศึกษา



Intergrating Instrucional Technology Into an Assignment

ครูจะบูราการเป็นชิ้นงานของนักเรียน
case study สะสมงาน ครูจะบูรณาการการทำ blog กับ wiki
เพื่อจะกระตุ้นประสบการณ์เรียนรู้ให้ดีกว่าเดิม
เทคนิคที่จะมฃทำให้รู้จักกับแนวคิดใหม่ๆ มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เขาจะได้รับเทคนิคเหล่านั้นในชั้นเรีย project ที่ครูให้นักเรียนทำจะต้องเป็นตัวอย่างที่ไม่กัดเวลา ไม่จำกัดเนื้อหา ให้มันดีขึ้นสหรับครูและตัวเรียนเอง
เมื่อไรก็ตามที่ครูจะต้องมั่นใจว่าผู้เรียนจะต้องเรียนไดทั้งเทคโนโลยีและเนื้อหา
และเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากที่จะต้องประเมิน
มีเทคโนโลยี 2 ประเภท
ได้แก่
1.เทคโนโลยีที่มีปฏิสัมพันธ์กัน
2.เทคโนโลยีมีการเคลื่อนไหวไม่เปลี่ยนแปลง
มีองค์ประกอบ
1.การศึกษากรณีศึกษาอังกฤษเป็น แฟ้มสะสมงานเป็นผลงานออกมา
2.เรียนรู้แล้วก็สร้าง Postcards
3.ทำให้มันเข้มแข็งขึ้น เช่น WiKi
ตลอดทั้ง คอสที่เรียน จะต้อง Discuss แบบ Online ตลอด


The ELL Case Study

ให้นักเรียนได้พูดคุยกันในสถานการณ์ที่ดฃเกิดขึ้นในโรงเรียน มีโอกาสที่จะวิเคราะห์ผู้เรียนเพื่อที่จะได้รับประสบการณ์ โดยครูสามารถจะสำรวจ พื้นฐาน ภาษา และวัฒนธรรม ครูจะพยายามจัดสถานการณ์ต่างๆให้สอดคล้องกัน จะช่วยให้สามารถแก้ปัญหากับผู้เรียนได้ ก็จะเป็ศูนย์กลางของข้อมูล ก็จะเข้าไปดูข้อมูลตรงนั้นได้ก็จะมีหลายขั้นตอน ดังนี้
A.เลือกก่อนว่าใครจะมาเป็น  Case study ของเรา
  -เลือก
  -ศึกษาตัวอย่าง
B.เอาข้อมูลที่เราเก็บมาทำ
C.มีการวิเคราะห์ข้อมูลที่หลากหลาย
D.มาคิดว่าสถานการณ์ไหนที่เกี่ยวกัน
  -สะท้อนความคิดแล้วเอาออกมา discuss กัน


Blogging

ครูเอา blog มาให้นักเรียนเขียน online jounrnals.เป็การนำเสนอที่ผู้เรียนได้เรียนรู้ หรือว่าข่าวต่างๆที่เรารับรู้ เมื่อผู้เรียนสร้าง blog แล้วผู้เรียนปฃก็สามารถสร้าง Link ไปสู่ศูนย์กลางของข้อความก็จะสามารถอัพโหลดได้



Podcasting

เป็นโปรแกรมเสียงพร้อมสำหรับดาวน์โหลดผ่านทางคอมพิวเตอร์หรือMP4 เปิดโอกาสให้ครูได้รับรู้เกี่ยวกับการส่งข้อมูลแบบไหนๆได้ ไม่เพียงแค่ตอบสนองเพียงรายบุคคลเท่านั้น ยังแผ่ข้อมูลให้แก่ผู้ฟังในระดับที่สูงขึ้น จำนวนเท่าไรก็ได้ไม่จำกัด
-พวกเขาสามารถที่จะดาวน์โหลด Podcasting เกี่ยวกับคำศัพท์ใหม่ๆ เข้าไปในตัวการทำPodcasting


Creating a Wiki

สามารถทำWiki ผ่านทาง Blackbord.com จะมีการแนะนำ กลยุทธ์ในการสอน


Online Discussion

ครูจะสามารถเข้าใจในความซับซ้อนของผู้เรียน พวกเขาจะต้องกระตุ้น โดยการอภิปรายและการแสดงความคิเห็นก็จะใช้ Link เป็นช่องทางพูดคุยกันแลกเปลี่ยนกัน เราจะสามารถเป็นกลุ่มของเราได้หรือคนอื่นๆดูได้ เป็นหน้าต่างให้ได้สังเกตุว่า ครูฝึกสอนมีองค์ความรู้อย่างไร


Implications

ข้อเสอแนะในการใช้เทคโนโลยีในการเรียนการสอน
จะต้องมีการเคลื่อนไหวที่มีประสิทธิภาพ ครูจะได้พัฒนาความเข้าใจเกี่ยกับพัฒนาผู้เรียนและประเด็นต่างๆ มีการแลกเปลี่ยนการเรียนรู้ที่มีจุดศูนย์กลางมีการสร้าง web pages และการประยุกต์ใช้ในบริบทการเรียนการสอนของตนเองมีการพึงพอใจในควมรู้ที่ได้และเล็งเห็นผลประโชน์ในอนาคต
ทักษะจะแตกต่างกันออกไป เมื่อพวกเขาได้เรียนแล้วก็จะค่อยๆพัฒนาในขณที่ทำProject จะต้องให้ความสำคัญของลิขสิทธิ์ ความเป็นส่วนตัวด้วยโดยใช้นามแฝง เกิดขึ้นในห้องเรียนแต่ว่าความรู้จากการทำ case study online โดยการเอาเทคโนโลยีเข้าไป ต้องใช้มันอย่างต่อเนื่อง สอนอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ

TIP

1.ต้องเสี่ยงกับเทคโนโลยีใหม่ๆ
2.ต้องคุ้นเคยกับเทคโนโลยีก่อนเอามาสอนคุณ
3.ต้องมั่นใจว่าเหมาะกับวัตถุประสงค์และกระบวนทีใช้ให้มันชัดเจนจะต้องสร้างสังคมการเรียนรู้ในทางที่ดี
4.นักเรียนที่เก่งจะต้องช่วกัน
5.ต้องสืบค้น website ต่างๆในการใช้เทคโนโลยี



  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

Acronyms

 IT (information technology) 
IT (information technology) คือ เป็นคำศัพท์ที่รวมรูปแบบทั้งหมดของเทคโนโลที่ใช้สร้าง เก็บ แลกเปลี่ยน และใช้สารสนเทศในรูปแบบหลากหลาย       (ข้อมูลทางธุรกิจ สนทนาทางเสียง ภาพ ภาพเคลื่อนไหว การนำเสนอแบบมัลติมีเดีย และรูปแบบอื่นๆ)    ศัพท์คำนี้เข้าใจอย่างง่าย   หมายถึงเทคโนโลยีโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ในคำเดียวกัน สิ่งนี้เป็นเทคโนโลยีที่กำลังขับเคลื่อนสิ่งที่เรียกว่า "การปฏิวัติสารสนเทศ"
http://www5dow.com/.com


ICT ( Information Communication Technology )
I  : Information............. สารสนเทศ
C : Communication............... การสื่อสาร
T : Technology............................. การประยุกต์ความรู้
ICT   หมายถึง   
เทคโนโลยี หรือกระบวนการต่างๆ ที่ร่วมกันสร้างสารสนเทศ (การรวบรวมข้อมูลที่ต้องการมาจัดเก็บ นำข้อมูลมาประมวลผล หรือวิเคราะห์ให้เป็น สารสนเทศ เรียกข้อมูลและสารสนเทศจากแหล่งอื่นๆ และส่งสารสนเทศ ในลักษณะที่ผู้ใช้ต้องการ ไปให้ผู้ใช้เมื่อต้องการอย่างรวดเร็ว) สนองความต้องการของผู้ใช้ โดยมุ่งให้ผู้ใช้ได้สารสนเทศที่มีคุณภาพดี (คือมีความถูกต้อง เชื่อถือได้ ครบถ้วน สมบูรณ์ ทันสมัย และตรงกับความต้องการ อย่างสะดวก รวดเร็ว ในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสม) http://noomook-ict.exteen.com/20090801/ict-ict-1


CAI  (Computer Assisted Instruction)
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction) หรือ (CAI)คือสื่อที่ใช้ในการเรียนการสอนอันหนึ่ง CAI คล้ายกับสื่อการสอนอื่น ๆ เช่น วิดีโอช่วยสอน บัตรคำช่วยสอน โปสเตอร์ แต่คอมพิวเตอร์ช่วยสอนจะดีกว่าตรงที่ตัวสื่อการสอน ซึ่งก็คือคอมพิวเตอร์นั้น สามารถโต้ตอบกับนักเรียนได้ ไม่ว่าจะเป็นการรับคำสั่งเพื่อมาปฏิบัติ ตอบคำถามหรือไม่เช่นนั้นคอมพิวเตอร์ก็จะเป็นฝ่ายป้อนคำถาม (นัยนา เอกบูรณวัฒน์, 2539)
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (
CAI : Computer Assisted Instruction)
หมายถึง การประยุกต์นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการเรียนการสอน โดยมีการพัฒนาโปรแกรมขึ้นเพื่อนำเสนอเนื้อหาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น
การเสนอแบบติวเตอร์ (
Tutorial)
แบบจำลองสถานการณ์ (Simulations)
 แบบการแก้ไขปัญหา (Problem Solving) เป็นต้น
16649.htmlhttp://www.baanmaha.com/community/thread

CALL  ( Computer-assisted language learning)
โปรแกรมช่วยเรียนภาษาโดยเฉพาะ ใช้ได้ทั้งกับการเรียนในห้องเรียน โดยมีผู้สอนเป็นผู้ควบคุมดูแลกระบวนการเรียนและการให้ผู้เรียนเรียนจากโปรแกรมด้วยตนเองที่ศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเอง (Self-access learning center) หรือที่ศูนย์คอมพิวเตอร์และสำหรับสถานศึกษาทีมีความพร้อมก็อาจมอบแผ่นโปรแกรมให้ผู้เรียนนำไปใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์นอกสถานศึกษาโดยผ่านโมเด็มและสายโทรศัพท์
WBI   ( Web - Based Instruction )
การเรียนการสอนผ่านเว็บเป็นการจัดสภาพการเรียนการสอนที่ได้รับการออกแบบอย่างมีระบบ โดยอาศัยคุณสมบัติและทรัพยากรของเวิลด์ไวด์เว็บ มาเป็นสื่อกลางในการถ่ายทอดเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพโดยอาจจัด เป็นการเรียนการสอนทั้งกระบวนการหรือนำมาใช้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการทั้งหมดและช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคของการเรียนการสอนทางด้านสถานที่และเวลาอีกด้วย 
http://student.nu.ac.th/fon/wbi.htm

CBI  ( Computer Based Instruction )
คำที่ใช้เรียกคอมพิวเตอร์ช่วยสอนซึ่งคล้ายกับ CAI คอมพิวเตอร์ช่วยสอน หมายถึง การประยุกต์นำคอมพิวเตอร์มาช่วยในการเรียนการสอน โดยมีการพัฒนาบทเรียน (Courseware) ขึ้นเพื่อเสนอเนื้อหาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ในรูปแบบสื่อประสมคือ ข้อความภาพกราฟิค ภาพเคลื่อนไหว และเสียง การเสนอเนื้อหาดังกล่าวเป็นการเสนอโดยตรงไปยังผู้เรียนผ่านทางจอภาพหรือแป้นพิมพ์ บทเรียนจะถูกจัดเก็บไว้ในแผ่นดิสก์หรือหน่วยความจำของเครื่องพร้อมที่จะเรียกใช้ได้ตลอดเวลา ผู้เรียนจะต้องโต้ตอบหรือตอบคำถามเครื่องคอมพิวเตอร์ด้วยการพิมพ์ การตอบคำถามจะถูกประเมินโดยคอมพิวเตอร์และจะเสนอแนะขั้นตอนหรือระดับในการเรียนขั้นต่อ ๆ ไป กระบวนการเหล่านี้เป็นปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผู้เรียนกับคอมพิวเตอร์
http://www.edu.nu.ac.th/supanees/lesson/366515/unit5_p04.html 

CMC (Computer Mediated Communication )
ปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทต่อการดำรงชีวิตประจำวันตั้งแต่ปัจจัย 4 ซึ่งเป็นพื้นฐานในการดำรงชีวิตไม่ว่าจะเป็นอาหาร เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย จนไปถึงสิ่งต่างๆรอบตัวล้วนแล้วแต่มีเทคโนโลยีเข้ามาเก่ียวข้อง และเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนในยุคนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกบทบาทที่สำคัญของเทคโนโลยีต่อการดำรงชีวิตในปัจจุบันคือบทบาททางการสื่อสาร Computer Mediated Communication (CMC) หรือการสื่อสารโต้ตอบปฎิสัมพันธ์ระหว่างคนกับเทคโนโลยี หรือการสื่อสารทางคอมพิวเตอร์ ซี่งวิกิพีเดียให้ความหมายว่า เป็นการสื่อสารระหว่างบุคคล โดยผ่านคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สองตัวขึ้นไป ผ่าน network หรือผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยเริ่มจากการติดต่อในลักษณะของตัวอักษรเป็นหลักในรูปแบบต่างๆ เช่น Instant Messages, E-mail, Chatroom
http://somzom.wordpress.com/2010/02/25/computer-mediated-communication-cmc-2/

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

On the problem

.....On The Problem.....

ความจำเป็นของการใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการสอนภาษาอังกฤษ

A.) การปลูกฝังความสนใจของนักเรียนในการเรียน
          ในปัจจุบันนี้ใช้วิธีการสอนที่ล้าสมัยและสภาพแวดล้อมที่จำเจ ในขณะที่เทคโนโลยีมัลติมีเดีย มีระบบเสียง, ภาพ, ภาพเคลื่อนไหว ช่วยกระตุ้นความสนใจของนักเรียนทำให้ได้รับข่าวสารที่มากขึ้นและสืบค้นข้อมูลได้เป็นอย่างดี ทำให้นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียน
B.) ส่งเสริมความสามารถการสื่อสารของนักเรียน
          การเรียนการสอนแบบเก่าๆเป็นปกติที่จะทำให้นักเรียนเข้าใจตัวภาษา ยากที่จะบรรลุเป้าหมายในการสื่อสารกับครูที่ให้คำแนะนำกับนักเรียนรูปแบบการ คิดและการสร้างแรงจูงใจอารมณ์ของนักเรียน, เทคโนโลยีมัลติมีเดียได้ช่วยส่งเสริมความต้องการของผู้เรียน บูรณาการการเรียนการสอนและให้นักเรียนเกิดแรงจูงใจมากขึ้น. บทเรียน PPTใน การสอนภาษาอังกฤษของมหาวิทยาลัยสามารถเปิดใช้งานการคิดของนักเรียน กิจกรรมในชั้นเรียน เช่น การสนทนากลุ่มอภิปรายเรื่องและการอภิปราย ยังสามารถให้โอกาสในการสื่อสารในหมู่นักเรียนและระหว่างครูกับนักเรียน การเรียนการสอนเทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อให้มีแรงบันดาลใจในการเรียน ความคิดเชิงบวกของนักเรียนและทักษะการสื่อสารทางสังคม
C.) เพื่อขยายความรู้ของของนักเรียนเพื่อให้เข้าใจลึกซึ้งถึงวัฒนธรรมตะวันตก
           บทแผ่นดิสก์ มัลติมีเดียสามารถนำเสนอข้อมูลของนักเรียนได้มากมายมีการครอบคลุมภาษาอังกฤษมัลติมีเดียกว้างไกลกว่าตำราด้วยเนื้อหาและวัสดุมีชีวิตจริงซึ่งมีมากตามธรรมชาติและใกล้กับชีวิต ผู้เรียนสามารถพัฒนาความสามารถในการฟังของพวกเขา และยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมตะวันตก การรู้ข้อมูลผ่านช่องทางต่างๆสามารถจัดให้นักเรียนมีความรู้และนำมาเกี่ยว กับข้อมูลร่วมกันในหมู่นักศึกษาและทำให้พวกเขามีส่วนร่วมในการอภิปรายในชั้น เรียนและการสื่อสาร
D.) การปรับปรุงผลการเรียนการสอน
          เสริมสร้างการเรียนการสอนมัลติมีเดียการเรียนการสอนเนื้อหาและรูปแบบการแบ่ง "ครูเป็นศูนย์กลาง" การเรียนการสอนและพื้นฐานการปรับปรุงประสิทธิภาพการเรียน มันเป็นเรื่องธรรมดามากที่นักเรียนของพวกเรามีชั้นเรียนภาษาอังกฤษในห้อง เรียนขนาดใหญ่มากยังหนาแน่น ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าวจึงเป็นเรื่องยากสำหรับนักเรียนที่จะมีการพูดสื่อ สาร รูปแบบการสอนแบบดั้งเดิมส่วนใหญ่เน้นการเรียนการสอนเกี่ยวกับครูและให้ ข้อมูลที่ถูก จำกัด ที่ตรงกันข้ามเทคโนโลยีมัลติมีเดียไปเกินเวลาและพื้นที่สร้างขึ้นสดใส, ภาพ, สภาพแวดล้อมที่แท้จริงสำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจะช่วยกระตุ้นความคิดริเริ่มของนักเรียนและประหยัดเวลาในชั้นเรียน

การวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อการสอนภาษาอังกฤษ

A.) ความหมายหลักแทนที่ด้วยการช่วยเหลือแบบหนึ่ง
          การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเป็นเครื่องมือที่ให้ความช่วยเหลือ เพื่อให้บรรลุผลการเรียนการสอนที่คาดการณ์ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์มัลติมีเดียใน ระหว่างการเรียนการสอนครูผู้สอนมากเกินไปทำให้ครูไม่มีบทบาทในการสอน  ในทางปฏิบัติของครูมีการใช้งานในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมัลติมีเดียเพื่อ ให้พวกเขามีส่วนร่วมมากในการค้นหาข้อมูลและการทำงานออกบทเรียน ในชั้นเรียนที่พวกเขาใช้คอมพิวเตอร์นักเรียนจะสนใจบนหน้าจอของพวกเขาเท่า นั้น ดังนั้นครูและนักเรียนจึงไม่มีสายตาระหว่างกัน  ด้วยเหตุนี้ความคิดของการศึกษาความคิดสร้างสรรค์ควรจะเข้าใจอย่างเต็มที่ว่า เทคนิคการศึกษาที่ทันสมัย​​ให้บริการที่ให้ความช่วยเหลือมากกว่าเป้าหมายและ ที่ไม่ควรครองชั้น ด้วยความช่วยเหลือของคอมพิวเตอร์ในการเรียนการสอนครูควรจะใช้ประโยชน์อย่าง เต็มที่หลักสูตรทางด้านวิชาการและวัสดุการเรียนการสอนที่จะหาวิธีการมากความ รู้ของนักศึกษาของเราได้รับข้อมูลมัลติมีเดียควรจะน้อยลงและนำที่ดีขึ้นโดย เน้นที่โดดเด่นและนวัตกรรมใหม่ในการเรียนการสอน
B.) จะสูญเสียการสื่อสารโดยการพูด
         การใช้สื่อมัลติมีเดียมากเกินไปทำให้ขาดปฏิสัมพันธ์ในชั้นเรียนและส่งผลให้การขาดการสื่อสารระหว่างครูและนักเรียนเสียงของครูจะถูกแทนที่ด้วยเสียงของคอมพิวเตอร์
C.) ทำให้ความสามารถในการคิดลดลง
          การคิดและการชื่นชมในความสวยงามของภาษาอาจจะทำให้บรรยายกาศของการเรียนเรียกว่า  เรียนอย่างมีความสุข มัน ไม่เกิด เพราะฉะนั้นถึงแม้ว่า มัลติมีเดียจะมีบทบาทที่ดีในการเรียนการสอน แต่จุดประสงค์สำคัญของการเรียนการสอนเน้นให้ผู้เรียนได้คิด ซึ่งคอมพิวเตอร์ ซอฟแวร์ต่างๆไม่สามารถที่จะแทนที่กระบวนการคิดของผู้เรียนได้
D.) ความคิดนามธรรมจะถูกแทนที่ด้วยความคิด Imaginal
         การสอนแบบดั้งเดิมเมื่อครูต้องการเล่าเรื่องครูจะสอนอะไร มันไม่มีมัลติมีเดียครูต้องอธิบายให้นักเรียนคิดจินตนาการตามไปว่าสิ่งนั้น คืออะไร แต่มัลติมีเดียปัจจุบันการเรียนการสอนง่าย ทุกอย่างเห็นภาพชัดเจน ความสามารถในการอ่านของผู้เรียนก็จะถูกแทนด้วยเสียงจากซีดีหรือจาก คอมพิวเตอร์ การเขียนของผู้เรียนถูกแทนที่ด้วยคีบอร์ดในการพิมพ์ เมื่อไหร่ก็ตามที่ใช้มัลติมีเดียให้สถานการณ์ก็จะเลวร้ายไปกว่าเดิม          
         มัลติมีเดียเป็นเครื่องมือที่ให้ความช่วยเหลือไม่สามารถแทนที่บทบาทที่โดด เด่นของครูผู้สอนและเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนการสอนที่สมบูรณ์ นอกจากจะไม่เลียนแบบช่างของการเรียนการสอนค่อนข้างจะรวมภาพต้นฉบับเดิม ประสบการณ์ในการสนับสนุนโครงการการเรียนการสอนโปรแกรมอัตโนมัติและต่อเนื่องเพื่อเพิ่มการปรับปรุงโดยรวมของนักเรียน การฟัง การพูด  การอ่าน และการเขียน

ข้อเสนอแนะและกลยุทธ์ในการปัญหาที่มีอยู่

A.) ความสวยงามของบทเรียน
         เราต้องมีการกระตุ้นให้เกิดมีการสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียนและพัฒนาทักษะการ ฟัง พูด ซึ่งคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเติมเต็มตรงนั้นได้ เพราะฉะนั้นการแปลหรือฝึกตีความของครูยังจำเป็นในการเรียนการสอน  คอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ครูต้องช่วยอธิบายเติมเติมด้วย  นอกจากนี้มัลติมีเดียใช้ได้แต่ใช้เป็นตัวช่วยครูให้มีประสิทธิภาพในการสอน มากยิ่งขึ้น เพราะถ้าไม่นั้นครูก็เป็นเพียงแค่คนกำกับเท่านั้น
B.) หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทดแทนกระดานดำ
          หน้าจอคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทดแทนกระดานดำ เพราะกระดานเราสามารถแก้ไขเพิ่มเติมตลอดเวลาได้  ซึ่งการเรียนการสอนเด็กต้องมีคำถามที่ไม่คาดคิดอยู่ตลอดเวลา  ถ้าใช้กระดานดำครูสามารถเขียนอธิบายแก้ไขเพิ่มเติมได้เพราะฉะนั้นอย่าใช้ แต่จอคอมพิวเตอร์
C.) PowerPoint ไม่สามารถใช้ในการแยกความคิดและปฏิบัติได้
         ปัจจุบัน มัลติมีเดียมากที่สุดส่วนใหญ่มีบทเรียนเกี่ยวกับภาพและภาพเคลื่อนไหวจากสื่อ การสอนก่อให้เกิดผลกระทบให้นักเรียนไม่ได้เกิดการคิด อภิปรายบทเรียนต้องทันสมัยใช้แต่ PPT การตั้งคำถามของครูในการเข้าสู่บทเรียนยังจำเป็นและเป็นการกระตุ้นนักเรียนอีกด้วย
D.) เครื่องมือการเรียนการสอนแบบดั้งเดิมไม่ควรมองข้าม
          มัลติมีเดียให้ความช่วยเหลือในการเรียนการสอนไม่สามารถแทนที่ด้วยเครื่องมืออื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นครูควรจะเลือกสื่อที่เหมาะสมตามความต้องการของการสอนและบูรณาการที่ ใช้ในการมัลติมีเดียที่มีประเพณีอย่างหนึ่งอย่างเต็มที่และดำเนินการทำบุญ ของพวกเขามากกว่าเพียงในการแสวงหาวิธีการที่ทันสมัย
E.) เทคโนโลยีมัลติมีเดียไม่ควรมีมากเกินไป
          ไม่ควรใช้สื่อมัลติมีเดียมากเกินไปเพราะถ้าใช้มากเกินเพราะถ้าใช้มากเกินไป จะทำให้เด็กเหมือนจะสนใจแต่ที่จริงแล้วเด็กนั่งดูเฉยๆ และเด็กก็ไม่ได้เกิดการเรียนรู้

สรุปได้ว่า...........
          สื่อมัลติมีเดียนั้นใช้ได้เหมือนกันแต่ต้องทำให้มันเป็นแค่ตัวช่วยของครูเท่านั้นส่วนหน้าที่หลักในการจัดการห้องเรียนจะเป็นของครูที่มีชิวิตจริงๆซึ่งจะเป็นการดีกว่า
 
 
 
 


 
 
 
 
 

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

The calendar song

IPA: International Phonetic Alphabet