Yaya_Young. ขับเคลื่อนโดย Blogger.
RSS


Summarize I

(English Teaching Forum)
Ten characteristicts of a good teacher

…BY…
PATRICIA     MILLER
This article was first published in Volume 25, No. 1 (1987)

สามารถแบ่งออกเป็น 4 ส่วนด้วยกันดังนี้
1)            ลักษณะทางด้านอารมณ์ จะประกอบด้วย ความกระตือรือร้น การให้การเสริมแรงทางบวกแก่  นักเรียน/การให้กำลังใจ ความสนใจในด้านการเรียน และสุขภาพจิต
2)            ทางด้านทักษะ จะประกอบด้วย ความคิดสร้างสรรค์ ความท้าทาย
3)            กาบริหารัดการในชั้นเรียน จะประกอบด้วย ความก้าวหน้า ความเป็นธรรม
4)            ความรู้ทางด้านวิชาการ จะประกอบด้วย ความชำนาญในเรื่องของไวยกรณ์
สามารถสรุปได้ดังนี้
                ครูที่มีประสิทธิผลไก้นั้นจะต้องประกอบไปด้วยการสาธิตหรือวิธีการที่ครูใช้ ในบทความนี้กล่าวไว้ว่าประกอบด้วย ลักษณะอารมณ์ สิ่งเหล่านี้จะอยู่ในตัวของคนเรามาตั้งแต่กำเนิดแล้ว แต่เราก็ต้องทำความเข้าใจกับมันให้มากขึ้น ส่วนใหญ่เราต้องการการเสริมแรงเพื่อให้เกิดการกระตือรือร้น แต่เราก้อต้องไดรับการตักเตือนบ้างในบางครั้งหากเกิดการกระทำผิดขึ้นมา ในส่วนของเทคนิคต่างๆของการจัดการในชั้นเรียนนั้นควรการจัดการการเรียนอย่างเป็นธรรมและเสมอภาคกันอย่างเท่าเทียมมันเป็นสิ่งที่ทุกคนไม่ควรมองข้าม จึงจะสามารถทำให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เทคนิคเหล่านี้ไม่ต้องผ่านการอบรมก็ได้ เพียงแค่เรารับรู้เกี่ยวกับทักษะการสอนที่เจาะจงในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์และความท้าทายของแต่ละคน ที่ต้องสอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนการสอนในระดับความยากและความเหมาะสมของพวกเขาและต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมกับประสบการณ์และความคุ้นเคยของหลักสูตรกับสื่อ ในหัวข้อสุดท้ายนี้ครูต้องมีความเชี่ยวชาญและสามารถให้ความน่าเชื่อถือในสายตาของนักเรียน ในการอธิบายวิธีการสอนโดยใช้ความรู้ทางด้านไวยกรณ์ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่มีความจำเป็นที่สุดในด้านการเรียนการสอนของทุกๆคน



Summarize II

(English Teaching Forum)
Using Story Jokes for Real Communication

…BY…
 WILLIAM DEFELICE
This article was first published in Volume 34, No. 2 (1996).

การใช้เรื่องราวความตลกในการสื่อสารจริง
สามารถสรุปได้ดังนี้
เรื่องราวความตลกขบขันมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนและสามารถบ่งบอกถึงการตอบสนองที่สามารถสังเกตความจริงใจของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี จากที่เคยฟังมาองค์ประกอบต่างๆเหล่านี้ ไม่มีส่วนเกี่ยวหรือเข้ามาก้าวก่ายในห้องเรียนภาษาอังกฤษ  ในการเล่าเรื่องความตลกต้องมีความมุ่งมั่นด้วยข้อมูลที่เล่ามาจำเป็นต้องแสดงข้อมูลที่เป็นจริงหรือแม้กระทั่งการยึดมั่นของผู้ชมสามารถเล็งเห็นถึงปัญหา โดยปกติแล้วชนิดของกิจกรรมในห้องเรียนมักจะไปมุ่งมั่นให้มีความชัดเจนเพื่อนำไปสู่ความสนุกสนานของเรื่องที่เล่า การเล่าเรื่องตลกทำให้นักเรียนมีความรับผิดชอบมากขึ้นและจะประสบความสำเร็จในการพูดและการกระทำของตนเอง นั่นคือ การพิสูจน์ในทำนองเดียวกันการตอบสนองต่อเรื่องตลกไม่ได้ตั้งกฎเกณฑ์ต่อตัวนักเรียนกับครู แต่พวกเขาต้องเจอสถานการณ์จริงความรู้สึกของอารมณ์ขันที่ไม่มีขอบเขต เพราะมันเป็นอิสระหรืออาจไม่สามารถใช้ร่วมกับเรื่องอื่นๆได้ พวกเขาจะมีพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นอย่างชัดเจน โดยทั่วไปแล้วพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์บางอย่างไม่ควรแสดงให้ผู้ชมเห็น อย่างแรกเลยก็คือจะต้องเจาะจงตัวนักเรียนให้ชัดเจน และก็พวกเขาอาจจะสามารถเดาหรือว่าคาดการณ์ถึงตอนจบของเรื่องได้ แต่ในทางกลับกันมันดูน่าเสียดายยิ่งนักว่าถ้าในชีวิตจริงเด็กเหล่านี้ก็ไม่สามารถเอามาปรับใช้กับชีวิตจริงได้ แต่นักเรียนก็จะสนุกไปกับตัวเอง สักวันหนึ่งในความเป็นจริงมันอาจจะสามารถสร้างความบันเทิงให้คนอื่นฟังได้เกี่ยวกับเรื่องราวความตลกของพวกเขาเองพวกเขาได้เป็นอย่างดีอาจเดาตอนจบของเรื่องอะไรบางอย่างที่ซึ่งน่าเสียดายที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงผลกระทบอื่น ๆ ที่นักเรียนอาจสนุกกับตัวเองและสักวันหนึ่งในการตั้งค่าจริงมากขึ้นจะสามารถสร้างความบันเทิงให้คนอื่นไปด้วยเรื่องราวตลกของพวกเขา



Summarize III

(English Teaching Forum)
Promoting Genre Awarenessin the EFL Classroom

…BY…
DIANE   MILLER
2011 NUMBER 2   ENGLISH   TEACHING   FORUM

ประเภทของการส่งเสริม Awarenessinในห้องเรียน EFL
สามารถสรุปได้ดังนี้สรุป
ที่ผ่านมา 20 ปีทฤษฎีประเภทการเรียนการสอนตามรูปแบบก็ได้ปรับเปลี่ยนวิธี ESP และครูสอนการเขียน EAPการเรียนการสอนที่มีอิทธิพลนี้เริ่มที่EFL ครู แต่อย่างไรก็ตาม EFLครูทำงานที่มีขนาดใหญ่ที่เรียนแตกต่างกัน ต้องเผชิญกับความท้าทายของการเลือกประเภทที่จะสอน ทางเลือกหนึ่ง คือการแนะนำรูปแบบวาทกรรมสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน เช่นการเล่าเรื่องคำอธิบายและเล่าขาน เป็นวิธีการประเภทการเรียนการสอน อีกตัวเลือกหนึ่งที่มีความสำคัญ คือ การรวมกิจกรรมการรับรู้ประเภทของการเข้าชั้นเรียน  โดยเฉพาะการสำรวจจะมีความแตกต่างกันออกไป ในแต่ละประเภทจะเกี่ยวข้องกับการใช้บริบทขององค์กรวาทกรรมของพวกเขาและรูปแบบ ไวยากรณ์ที่นักเรียนสามารถส่งเสริมและแจ้งให้ทราบเกี่ยวกับการทำงานภาษาพวกเขาดีขึ้น สามารถสังเกตเห็นและอธิบายความเหมือนและความแตกต่างระหว่างประเภทได้ ก็อาจจะมีดีกว่าที่จะเขียนในวงกว้างที่มีความหลากหลายของบริบท ตามบทความที่ได้กล่าวมาได้นำเสนอ สาม ตัวอย่างกิจกรรมการรับรู้ เป็นประเภทที่เน้นเกี่ยวกับกับบริบทวาทกรรมภาษาและ หลายกิจกรรมมากขึ้นที่เป็นไปได้และขอให้ครูที่สนใจในการสำรวจและประเภทห้องเรียนการเรียนรู้ภาษา (Paltridge 2001)เขียนภาษาที่สองและ (ไฮแลนด์ 2003)สำหรับข้อเสนอแนะเพิ่มเติม ที่คุณก็สามารถเป็นนักวิเคราะห์ประเภทสองขั้นพื้นฐานการตั้งคำถามในตำราจากประเภทนี้โดยเฉพาะที่มีเหมือนกัน? และทำไม? คุณสามารถมี่การพัฒนามากขึ้นและต้องตระหนักถึงวิธีการประเภทของการทำงานและจากนั้นแบ่งปันความรู้นี้ให้แก่กับนักเรียนของคุณได้



Summarize IIII

(English Teaching Forum)
Writing for the Reader:A Problem-Solution Approach

…BY…
TOM MILLER AND DEE PARKER
This article was first published in Volume 35, No. 1 (1997).

การเขียนสำหรับผู้อ่าน: วิธีการแก้ไขปัญหา
สามารถสรุปได้ดังนี้
บทความนี้ได้เน้นความสำคัญของรูปแบบบทความซึ่งมีจุดมุ่งหมายของนักเขียน ที่กำลังตั้งอยู่ที่การปรับตัวของผู้อ่าน ซึ่งรวมถึงบทความป้าย เช่นหัวและทิศทางต้องเริ่มต้นที่ดี ในการแนะนำให้ผู้อ่านจะติดตามต่อไปเขาพยายามที่จะเข้าใจความคิดและการเชื่อมต่อระหว่างส่วนต่างๆของข้อความไปใน ทิศทางที่ดี จะช่วยเปิดโอกาสแก่นักเขียนกับความคิด การควบคุม ในทุกแง่มุมของข้อความ จากประโยคคำสั่งขององค์ประกอบภายในหัวข้อของแต่ละบุคคลประโยคนั้นจะสนองวัตถุประสงค์ของการปรับผู้อ่านไปกับองค์กรทั่วไปของบทความและจะช่วยให้ผู้อ่านบังเกิดความคิดขึ้นมาของผู้ใต้บังคับบัญชา เราได้มุ่งเน้นตัวอย่างแต่เราจะไปเฉพาะเจาะจงที่การกำหนด แต่จะให้ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมเพียงบางส่วนของหลักการเท่านั้นที่นำมาปฏิบัติ เราจะไม่บังคับนักเขียนของเราให้อยู่ในรูปแบบของปัญหา แต่มีเราจะการสำรวจประเภทของข้อความในเชิงลึกเพราะมันเป็นส่วนหลักขององค์กรทั่วไป สำหรับบทความหน้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งและในบทความวิชาการทั่วไปไม่ว่าจะเป็นบทความใดเกี่ยวกับปัญหาก็ตาม จะต้องมีโครงสร้างไว้ในบทความนี้หรือบางกลยุทธ์อื่น ๆ ตามคำสั่งของข้อมูลในประโยคให้ได้มากที่สุดอาจจะแตกต่างกันไปด้วย ส่วนที่แตกต่างกัน ก็คือการประชุมและการจัดวางรูปแบบของความคิดในข้อความช่วยให้ผู้อ่านระบุสิ่งที่มีความสำคัญและเป็นสิ่งที่ใหม่และช่วยให้ความสัมพันธ์ของข้อความสัมพันธ์กัน องค์กรมาตรฐานจะเป็นช่วยให้สะพานช่องว่างระหว่างผู้อ่านจากภูมิหลังที่แตกต่างกันและให้มีส่วนร่วมกันภายใน ซึ่งความคิดสามารถเผยแพร่อย่างกว้างขวางของ เราหวังว่าการมุ่งเน้นโดยทั่วไปจะเป็นขั้นตอนของบทความ  ไม่เพียง แต่ช่วยผู้ที่มีศักยภาพนำผู้อ่านผ่านทางข้อความ แต่ยังจะช่วยให้เราเป็นผู้อ่านที่ดีขึ้นและมีความสำคัญมากขึ้น

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

The calendar song

IPA: International Phonetic Alphabet